วันอาทิตย์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2561

บันทึกการเรียนครั้งที่ 2 การจัดประสบการณ์การเรียนรู้ทางการศึกษาปฐมวัย



วัน จันทร์  ที่ 22 เดือน มกราคม  ปี  2561  เวลาเรียน  8:30 - 11:30น.

  




เนื้อหาที่เรียน
      การเรียนการสอนในวันนี้เป็นการเรียนการสอนแบบการอภิปรายโดยให้แต่ละกลุ่มที่ได้รับผิดชอบงาน นำเสนอรายละเอียดที่ตนได้ไปศึกษามาและทุกคนในห้องเรียนช่วยกันวิเคราะห์ถึงประเด็นต่างๆโดยอาจารย์คอยให้คำแนะนำเป็นลำดับขั้นตอน มีประเด็นการนำเสนอดังนี้
1.พัฒนาการและคุณลักษณะตามวัยของเด็กปฐมวัยตามหลักสูตรการศึกษาปฐมวัยปี2560
        พัฒนาการ หมายถึง กระบวนการเปลี่ยนแปลงด้านวุฒิภาวะ (maturity) ของอวัยวะระบบต่างๆและตัวบุคคล ทำให้เพิ่ม ความสามารถของบุคคลให้ทำหน้าที่ต่างๆได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ทำสิ่งที่ยากและซับซ้อนยิ่งขึ้นได้ ตลอดจนการเพิ่ม ทักษะใหม่และความสามารถในการปรับตัวในภาวะใหม่ของบุคคลนั้น
พัฒนาการของเด็ก จะแบ่งออกเป็น 4 ด้านดังนี้
1. พัฒนาการด้านร่างกาย
2. พัฒนาการด้านสติปัญญา
3. พัฒนาการด้านอารมณ์
4. พัฒนาการด้านสังคม
ตามที่หลักสูตรการศึกษาปฐมวัยปี2560 ได้มีการแบ่งโครงสร้างหลักสูตรออกเป็น2 ช่วงอายุ คือหลักสูตรสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า3ปี จัดขึ้นสำหรับพ่อแม่ผู้เลี้ยงดู หรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับการอบรมเลี้ยงดูและพัฒนาเด็กประกอบด้วย 2ช่วงอายุ คือ ช่วงอายุแรกเกิด-2ปี เป็นแนวปฏิบัติการอบรมเลี้ยงดูตามวิถีชีวิตประจำวัน และช่วงอายุ 2-3ปี เป็นแนวปฏิบัติการอบรมเลี้ยงดูและส่งเสริมพัฒนาการและการเรียนรู้ ให้เด็กมีร่างกายเจริญเติบโตตามวัยแข็งแรงและมีสุขภาพดี สุขภาพจิตดี มีความสุข มีทักษะการใช้ภาษาสื่อสาร สนใจเรียนรู้สิ่งต่างๆ และหลักสูตรการศึกษาปฐมวัยสำหรับเด็กอายุ 3-6ปี เป็นการจัดการศึกษาในลักษณะของการอบรมเลี้ยงดูและให้การศึกษา เด็กจะได้รับการพัฒนาทางด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญา ตามวัยและความสามารถของเด็กแต่ละคน
     "หลักสูตรนี้จะเป็นหลักสูตรแกนกลาง ที่มีความยืดหยุ่น สถานศึกษา หรือสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย ทุกสังกัดสามารถนำไปปรับปรุงให้เหมาะกับเด็กและสภาพท้องถิ่นได้ โดยมีจุดเน้นสำคัญคือ การเรียนรู้แบบactive learning ของเด็กโดยการลงมือกระทำ มีการบูรณาการผ่านการเล่น มีเป้าหมายคือ เป็นคนดี มีวินัย มีปัญญา มีความสุข"
ข้อแตกต่างหลักสูตรเก่า 2546 และหลักสูตรใหม่ 2560
จุดเด่น
-          เพิ่มเติมวิสัยทัศน์ ของหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย
-           เพิ่มเติมตัวบ่งชี้และสภาพที่พึงประสงค์รายอายุ"เพื่อให้มีเนื้อหาที่ชัดเจน สถานศึกษาสามารถนำไปออกแบบ และจัดหลักสูตรสถานศึกษาของตนเอง ครูสามารถนำไปวางแผนการพัฒนาผู้เรียนรายอายุได้ง่ายขึ้น
-          ด้านร่างกาย โดยเพิ่มการพัฒนาการตระหนักรู้ เกี่ยวกับร่างกายตนเอง (self-awareness) คือการเคลื่อนไหวโดยควบคุมตนเองไปในทิศทางระดับและพื้นที่,
-          ด้านอารมณ์จิตใจ เพิ่มอัตลักษณ์เฉพาะตน และเชื่อว่าตนเองมีความสามารถและการเห็นอกเห็นใจผู้อื่น,
-          ด้านสังคม เพิ่มการปฏิบัติตามวัฒนธรรมท้องถิ่น และความเป็นไทย การมีวินัย การยอมรับในความเหมือนและแตกต่าง ระหว่างบุคคล
-          ด้านสติปัญญา เพิ่มการพัฒนาความสามารถในการคิดรวบยอด การคิดเชิงเหตุผล การคิดแก้ปัญหา และตัดสินใจการใช้ภาษาในการเรียนรู้
2.ความสนใจและความต้องการของเด็กปฐมวัย
ธรรมชาติของเด็กปฐมวัยมีความต้องการตามวัย อยากเรียนรู้สิ่งต่างๆที่อยู่รอบตัวเอง โดยการได้ทดลอง จับสัมผัสอยู่เสมอ ดังนั้นครูจะต้องคำนึงถึงความแตกต่างของเด็กแต่ละคนโดยมีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลายให้เหมาะสมกับความต้องการของเด็ก
3.การเรียนรู้ของเด็กปฐมวัย
  

4.รูปแบบการเรียนรู้นวัตกรรมการสอนแบบโครงการ 
















ผลการประเมิน
การประเมินตนเอง
เข้าเรียนตรงเวลาและตั้งใจฟังในสิ่งที่เพื่อนๆนำเสนอ ให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมต่างๆในชั้นเรียน
การประเมินเพื่อน
เพื่อนๆเข้าเรียนตรงเวลาและมีการเตรียมตัวพร้อมสำหรับการนำเสนอเนื้อหาต่างๆที่รับผิดชอบ

การประเมินอาจารย์
 วันนี้อาจารย์เข้าสอนตรงเวลาและคอยให้คำอธิบายรายละเอียดต่างๆที่เรียนให้กับนักศึกษาทำให้นักศึกษาได้ใช้ทักษะการคิดต่างๆเช่นการคิดแก้ปัญหา การคิดวิเคราะห์เป็นต้น

วันอาทิตย์ที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2561

บันทึกการเรียนครั้งที่ 1 การจัดประสบการณ์การเรียนรู้ทางการศึกษาปฐมวัย


วัน จันทร์  ที่ 15 เดือน มกราคม  ปี  2561  เวลาเรียน  8:30 - 11:30น.

  

เนื้อหาที่เรียน

1.จุดมุ่งหมายของรายวิชา
  - ทักษะด้านคุณธรรมจริยธรรม
  - ทักษะด้านความรู้
  - ทักษะทางปัญญา
  - ทักษะด้านความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและความรับผิดชอบ
  - ทักษะการวิเคราะห์เชิงตัวเลข
  - ทักษะการจัดการเรียนรู้
2.วัตถุประสงค์ในการพัฒนาปรับปรุงรายวิชา






3.รูปแบบการจัดการเรียนรู้ของแต่ละโรงเรียนที่นักศึกษาได้ไปสังเกตการสอน
   - การจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ หมายถึง กระบวนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ให้แก่ผู้เรียนตามความสนใจ ความสามารถ และความต้องการ โดยการเชื่อมโยงสาระการเรียนรู้ในศาสตร์สาขาต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน ทั้งนี้เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเปลี่ยนแปลงปรับปรุงพฤติกรรมของผู้เรียน ทั้งทางด้านสติปัญญา(Cognitive) ทักษะ (Skill) และจิตใจ (Affective) สามารถนำความรู้และทักษะที่ได้ไปแก้ไขปัญหาด้วยตนเอง และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ได้จริงในชีวิตประจำวัน

 - การสอนภาษาแบบธรรมชาติ (Whole Language Approach) คือ การที่เด็กได้เรียนรู้การใช้ภาษาทั้งด้านการฟัง พูด อ่าน เขียนไปตามธรรมชาติ อย่างมีความหมาย สอดคล้องเหมาะสมกับวัย โดยไม่แยกว่าต้องอ่านก่อน หรือเขียนก่อน แต่จะเน้นให้เด็กได้ลงมือทำด้วยตนเอง เช่น อ่านนิทาน เล่าเรื่องราว ฟังนิทานที่ครูหรือเพื่อนเล่า เขียนคำที่ตนสนใจจากเรื่องที่ได้อ่านหรือได้ฟัง

ทักษะ EF คือ กระบวนการทางความคิดในส่วน "สมองส่วนหน้า" ที่เกี่ยวข้องกับความคิด ความรู้สึก การกระทำ เป็นความสามารถของสมองที่ใช้บริหารจัดการชีวิตในเรื่องต่างๆ ซึ่งจะช่วยให้สามารถตั้งเป้าหมายในชีวิต รู้จักการวางแผน มีความมุ่งมั่น จดจำสิ่งต่างๆ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ได้ สามารถยั้งคิด ไตร่ตรอง ควบคุมอารมณ์ได้ ยืดหยุ่นความคิดเป็น สามารถจัดลำดับความสำคัญในชีวิต รวมทั้งรู้จักริเริ่มและลงมือทำสิ่งต่างๆ อย่างเป็นขั้นเป็นตอน ซึ่งทักษะเหล่านี้เป็นสิ่งที่ ทุกคนต้องใช้และมีผลต่อความสำเร็จในชีวิต ทั้งการงาน การเรียน และการใช้ชีวิต
กลุ่มทักษะ EF ที่สำคัญมีทั้งหมด 9 ด้าน
1.ทักษะความจำที่นำมาใช้งาน (Working Memory) คือทักษะจำหรือเก็บข้อมูลจากประสบการณ์ที่ผ่านมา และดึงมาใช้ประโยชน์ตามสถานการณ์ที่พบเจอ เด็กที่มีเวิร์กกิ้ง เมมโมรีดี ไอคิวก็จะดีด้วย
2.ทักษะการยับยั้งชั่งใจ-คิดไตร่ตรอง (Inhibitory Control) คือความสามารถในการควบคุมความต้องการของตนเองให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เด็กที่ขาดความยับยั้งชั่งใจจะเหมือน "รถที่ขาดเบรก" อาจทำสิ่งใดโดยไม่คิด มีปฏิกิริยาในทางที่ก่อให้เกิดปัญหาได้
3.ทักษะการยืดหยุ่นความคิด (Shift Cognitive Flexibility) คือความสามารถในการยืดหยุ่นหรือปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้ ไม่ยึดตายตัว
4.ทักษะการใส่ใจจดจ่อ (Focus) คือความสามารถในการใส่ใจจดจ่อ มุ่งความสนใจอยู่กับสิ่งที่ทำอย่าง ต่อเนื่องในช่วงเวลาหนึ่ง
5.การควบคุมอารมณ์ (Emotion Control) คือ ความสามารถในการควบคุมแสดงออกทางอารมณ์ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เด็กที่ควบคุมอารมณ์ตัวเอง ไม่ได้ มักเป็นคนโกรธเกรี้ยว ฉุนเฉียว และอาจมีอาการซึมเศร้า
6.การประเมินตัวเอง (Self-Monitoring) คือการสะท้อนการกระทำของตนเอง รู้จักตนเอง รวมถึงการประเมินการงานเพื่อหาข้อบกพร่อง
7.การริเริ่มและลงมือทำ (Initiating) คือ ความสามารถในการริเริ่มและลงมือทำตามที่คิด ไม่กลัวความล้มเหลว ไม่ผัดวันประกันพรุ่ง
8.การวางแผนและการจัดระบบดำเนินการ (Planning and Organizing) คือทักษะการทำงาน ตั้งแต่การตั้งเป้าหมาย การวางแผน การมองเห็นภาพรวม ซึ่งเด็กที่ขาดทักษะนี้จะวางแผนไม่เป็น ทำให้งานมีปัญหา
9.การมุ่งเป้าหมาย (Goal-Directed Persistence) คือ ความพากเพียรมุ่งสู่เป้าหมาย เมื่อตั้งใจและลงมือทำสิ่งใดแล้ว ก็มีความมุ่งมั่นอดทน ไม่ว่าจะมีอุปสรรคใดๆ ก็พร้อมฝ่าฟันให้สำเร็จ



เพลงเด็ก





การประเมิน
การประเมินตนเอง

เข้าเรียนตรงเวลาและตั้งใจฟังสิ่งที่อาจารย์สอน
การประเมินเพื่อน
เพื่อนๆเข้าเรียนตรงเวลาและมีความกระตืนรือร้นในการเรียน 
การประเมินอาจารย์

อาจารย์เข้าสอนตรงเวลาและอธิบายรายละเอียดรายวิชาได้อย่างครบถ้วน


Record 16 Learning Experiences Management in Early Childhood Education

Monday 23    April  2018  8:30 AM - 11:30 AM เรียนชดเชยในวันที่ 1พฤษภาคม 2561 แทนวันที่ 23 เมษายน 2560 อาจารย์สรุปเนื้อหาที่เรียนมา...